วิธีทำต้มข่าไก่ เมนูซุปกะทิไก่หอมนวลลิ้น

ต้มข่าไก่ เข้มข้น หอมนวลลิ้น พร้อมสูตรวิธีทำต้มข่าไก่แบบง่าย ๆ ขั้นตอนชัดเจน เสิร์ฟพร้อมเคล็ดลับกะทิไม่แตกมัน และสูตรต้มข่าไก่ใส่เห็ดให้รสชาติกลมกล่อม ติดใจทุกคำ ทำตามได้เลยวันนี้!

วิธีทำต้มข่าไก่ เมนูซุปกะทิไก่หอมนวลลิ้น

หลายครัวเรือนมักประสบปัญหาน้ำซุปต้มข่าไก่ที่รสชาติไม่กลมกล่อม กะทิแยกชั้น หรือไก่ไม่สุกทั่วถึงจนเนื้อในยังสุกไม่ดี บางครั้งข่าที่ใส่กลับไม่หอมหรือรสชาติขมเกินไป เมนู “วิธีทำต้มข่าไก่” นี้จะช่วยแก้ไขทุกปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป — เราแนะนำเคล็ดลับเลือกวัตถุดิบ วิธีควบคุมความร้อน และขั้นตอนการปรุงอย่างละเอียด เพื่อให้คุณได้ซุปไก่กะทิเข้มข้น รสชาติกลมกล่อม และกลิ่นหอมของสมุนไพรไทยที่ชัดเจน พร้อมเสิร์ฟในบ้านคุณเอง เมนูภาคกลาง

วัตถุดิบและส่วนผสมหลักสำหรับต้มข่าไก่สูตรง่าย

การจัดเตรียมส่วนผสมอย่างแม่นยำช่วยให้ต้มข่าไก่ของคุณอร่อยได้ตามมาตรฐานร้านอาหาร เราคัดส่วนผสมที่เข้มข้นและมีสมดุล ประกอบด้วย:

  • เนื้อไก่ (เช่น สะโพกไก่ หรืออกไก่) ประมาณ 300–400 กรัม
  • กะทิ (หัวกะทิ 200 มล. + หางกะทิ 400–500 มล.)
  • ข่าอ่อน หั่นแว่นบาง 4–5 แว่น
  • ตะไคร้ ทุบและหั่นเฉียง 2–3 ต้น
  • ใบมะกรูดฉีก 5–6 ใบ
  • เห็ดฟาง หรือเห็ดตามชอบ ประมาณ 150–200 กรัม
  • พริกขี้หนูหรือพริกแดง ทุบพอแตก 5–10 เม็ด (ตามความเผ็ดที่ต้องการ)
  • น้ำปลา 1–2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ลูก (หรือมะขามเปียกเล็กน้อยใช้ปรับรส)
  • น้ำตาลทราย ½ – 1 ช้อนชา
  • เกลือนิดหน่อย (ประมาณ ¼ ช้อนชา)
  • ผักชี (ซอย) สำหรับโรยหน้า

เคล็ดลับเลือกวัตถุดิบให้เมนูต้มข่าไก่อร่อยขึ้น

  • เลือกไก่เนื้อนุ่ม เช่น สะโพกหรืออก และควรล้างให้สะอาดก่อนหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
  • ใช้ข่าอ่อนจะให้กลิ่นหอมอ่อน ไม่ขมจัด และหั่นบางเพื่อปล่อยกลิ่น
  • ตะไคร้ควรทุบให้แตก เพื่อให้กลิ่นหอมออกได้ดี
  • เลือกกะทิที่มีความมันพอสมควร (ไม่เจือจางเกินไป) เพื่อให้เนื้อซุปมีความเข้มข้น
  • ถ้าใส่เห็ด ควรเลือกเห็ดสด ไม่มีแมลง และล้างสะอาดก่อนใช้

ขั้นตอนวิธีทำต้มข่าไก่ให้หอม มัน เค็มเปรี้ยวกลมกล่อม

ต่อไปคือขั้นตอนวิธีทำต้มข่าไก่อย่างละเอียด ตั้งแต่เริ่มต้นจนเสิร์ฟ:

  1. ตั้งหม้อ ใช้ไฟกลาง ใส่หางกะทิลงไป ตามด้วยข่า แง่งตะไคร้ และใบมะกรูด ต้มจนกะทิเริ่มเดือดและเครื่องสมุนไพรส่งกลิ่นหอม
  2. ใส่เนื้อไก่ลงไป ต้มจนเนื้อไก่เริ่มสุก (สีเนื้อเปลี่ยนเป็นขาวทั่วถึง)
  3. ปรุงรสเบื้องต้นด้วยน้ำปลา น้ำตาล และเกลือนิดหน่อย คนให้ละลาย ชิมรสเค็มหวาน
  4. ใส่หัวกะทิและเห็ดลงไป ต้มต่อจนเดือดอีกครั้ง (ระวังกะทิแตกมัน)
    • ถ้าต้องการความเข้มข้นมากขึ้น ให้ใส่หัวกะทิเข้าไปทีหลังเมื่อไก่และเห็ดสุกแล้ว
  5. ปิดไฟแล้วบีบมะนาว (หรือเติมมะขามเปียก) พร้อมใส่พริกที่ทุบไว้ คนให้เข้ากัน ชิมรสเปรี้ยว เค็ม และหวานให้ลงตัว
  6. ตักต้มข่าไก่ใส่ถ้วย โรยผักชีซอย (และถ้าชอบอาจใส่หัวกะทิเล็กน้อยตกแต่ง) พร้อมเสิร์ฟร้อน ๆ

เคล็ดลับสำคัญในขั้นตอนปรุงอาหาร

  • อย่าต้มนานเกินไปหลังใส่หัวกะทิ เพราะจะทำให้กะทิแตกมันและน้ำซุปขุ่น
  • ช่วงใกล้ปิดไฟ ค่อยใส่มะนาวหรือมะขามเปียก เพื่อรักษาความสดและรสเปรี้ยวที่ดี
  • ถ้าอยากให้รสเผ็ดขึ้นเล็กน้อย สามารถเพิ่มพริกสดอีกเล็กน้อยหลังปิดไฟ
  • ถ้าน้ำซุปจางเกินไป ให้เคี่ยวเพิ่มบ้างก่อนใส่หัวกะทิ เพื่อให้น้ำงวดและเข้มข้นขึ้น

วิธีเสิร์ฟและปรับแต่งเมนูต้มข่าไก่ให้ตรงใจ

ต้มข่าไก่เสิร์ฟร้อนคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ จะช่วยดึงรสชาติของซุปให้โดดเด่นยิ่งขึ้น เมนูนี้เหมาะสำหรับมื้อกลางวันหรือมื้อเย็นที่ต้องการซดน้ำอุ่น ๆ ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น

วิธีปรับแต่งรสชาติและส่วนประกอบเพิ่มเติม

  • ถ้าชอบรสเปรี้ยวมากขึ้น ใช้มะขามเปียกแทนน้ำมะนาว (หรือใช้ร่วมกัน)
  • สามารถใส่ผักอื่น ๆ เช่น ฟักข้าว ฟัก หรือหน่อไม้ เพื่อเพิ่มปริมาณและรสสัมผัส
  • หากต้องการลดความมัน ให้ลดหัวกะทิและเพิ่มหางกะทิแทน
  • ใครที่ชอบใส่ “ต้มข่าไก่ใส่เห็ด” ก็สามารถเพิ่มเห็ดตามชอบ เช่น เห็ดนางฟ้า เห็ดชิเมจิ ได้อย่างลงตัว

เคล็ดลับสุดท้ายก่อนเสิร์ฟ

ควรเสิร์ฟต้มข่าไก่ทันทีหลังปรุงเสร็จ เพราะถ้าทิ้งไว้นาน น้ำซุปจะเซ็ตตัวและความหอมของสมุนไพรจะจางลง และหากต้องอุ่นซ้ำ ให้เติมหัวกะทิเล็กน้อยพร้อมกับต้มไฟอ่อนเบา ๆ เพื่อให้กะทิไม่แตกมัน

วิธีแช่เก็บซุปต้มข่าไก่ในตู้เย็น

ถ้ามีซุปเหลือ ให้รอให้เย็นก่อนแล้วเทใส่ภาชนะที่ปิดสนิท เก็บในตู้เย็น ใช้ให้หมดภายใน 1–2 วัน เมื่อนำมาอุ่น ให้ใช้ไฟอ่อนและเติมหัวกะทิเล็กน้อยเพื่อเรียกความเข้มข้นกลับมา

Scroll to Top