วิธีทำขนมจีนน้ำยาปลาช่อน สูตรต้นตำรับภาคกลางหอมอร่อยเข้มข้นถึงเครื่องแกง

วิธีทำขนมจีนน้ำยาปลาช่อน สูตรต้นตำรับภาคกลาง หอมมันถึงเครื่อง เคล็ดลับการเตรียมปลาช่อนและน้ำยาให้เข้มข้น ทำง่าย อร่อยเหมือนร้านดัง พร้อมส่วนผสมและขั้นตอนละเอียดครบทุกขั้นตอน

วิธีทำขนมจีนน้ำยาปลาช่อน สูตรต้นตำรับภาคกลาง หอมอร่อยเข้มข้นถึงเครื่องแกง

เมนู ขนมจีนน้ำยาปลาช่อน ถือเป็นอาหารยอดนิยมที่หลายคนชื่นชอบ ด้วยรสชาติเข้มข้น หอมเครื่องแกงและเนื้อปลาช่อนที่ละเอียดนุ่ม แต่หลายคนอาจรู้สึกว่าการทำเมนูนี้ยากเกินไป ต้องใช้เวลานานหรือกลัวกลิ่นคาวปลา หากคุณเคยเจอปัญหาแบบนี้ บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ “วิธีทำขนมจีนน้ำยาปลาช่อน” แบบละเอียดทุกขั้นตอน พร้อมเคล็ดลับดับคาว และการเคี่ยวน้ำยาให้เข้มข้นหอมมันเหมือนร้านอาหารชื่อดัง เพื่อให้คุณสามารถทำกินเองที่บ้านได้อย่างมั่นใจ และอร่อยไม่แพ้ร้านดังแน่นอน

ส่วนผสมสำคัญของขนมจีนน้ำยาปลาช่อนที่ให้รสชาติกลมกล่อม

หัวใจของการทำขนมจีนน้ำยาปลาช่อนให้อร่อยคือ “วัตถุดิบ” ที่สดใหม่ โดยเฉพาะปลาช่อนซึ่งต้องเลือกตัวขนาดกลาง เนื้อแน่นไม่มีกลิ่นโคลน และเครื่องแกงที่โขลกใหม่จะให้กลิ่นหอมเฉพาะตัวมากกว่าเครื่องแกงสำเร็จรูป รายการส่วนผสมมีดังนี้:

  • ปลาช่อนขนาดกลาง 1 ตัว (ประมาณ 700-800 กรัม)
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • หัวกะทิ 2 ถ้วย
  • หางกะทิ 3 ถ้วย
  • ตะไคร้ 2 ต้น (หั่นท่อน)
  • ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
  • พริกแกงน้ำยา 4 ช้อนโต๊ะ (โขลกจากพริกแห้ง ข่า ตะไคร้ กระเทียม หอมแดง และปลาร้าสุกเล็กน้อย)
  • เกลือ ½ ช้อนชา
  • ขนมจีนเส้นสด 1 กิโลกรัม
  • ผักเครื่องเคียง เช่น ถั่วงอก ใบโหระพา แตงกวา ถั่วฝักยาวซอย และผักกาดดองซอย

ขั้นตอนการเตรียมปลาช่อนให้ไม่คาวและเนื้อนุ่ม

ปลาช่อนเป็นปลาน้ำจืดที่มีรสหวานมัน แต่หากเตรียมไม่ถูกวิธีอาจมีกลิ่นคาวติดเนื้อ การเตรียมปลาช่อนอย่างถูกต้องช่วยให้รสชาติน้ำยาดีขึ้นหลายเท่า:

  1. นำปลาช่อนมาขอดเกล็ด ล้างทำความสะอาดให้หมดเลือด แล้วโรยเกลือเล็กน้อยถูทั่วตัว ล้างออกด้วยน้ำมะขามเปียกผสมน้ำเล็กน้อย จะช่วยดับกลิ่นคาวได้ดี
  2. ต้มปลาช่อนในน้ำเดือดที่ใส่ข่าและตะไคร้ประมาณ 10 นาที จากนั้นแยกเอาเนื้อปลาออกมาขยี้ให้ละเอียด ระวังก้างให้หมด
  3. น้ำต้มปลาที่ได้สามารถกรองเก็บไว้ใช้เป็นน้ำซุปสำหรับเคี่ยวน้ำยา

เคล็ดลับการทำน้ำยาให้เข้มข้น หอมเครื่องแกง

การเคี่ยวน้ำยาให้หอมและเข้มข้นคือจุดสำคัญที่สุดของเมนูนี้ ควรใช้ไฟอ่อน เคี่ยวให้ส่วนผสมเข้ากันอย่างลงตัว:

  1. ตั้งหม้อ ใส่หางกะทิลงไป ตามด้วยพริกแกงน้ำยา คนให้ละลายแล้วเคี่ยวจนหอม
  2. ใส่เนื้อปลาช่อนที่ขยี้ไว้ลงไป คนให้เข้ากัน เติมหัวกะทิลงไปตาม แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และเกลือ
  3. เคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อนประมาณ 15-20 นาที จนเนื้อปลาละเอียดเนียนกับน้ำกะทิและมีความข้นพอดี
  4. ใส่ใบมะกรูดฉีกลงไปก่อนปิดไฟ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมเฉพาะของเมนูภาคกลาง

เคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งคือไม่ควรใส่พริกแกงมากเกินไป เพราะจะกลบรสหวานธรรมชาติของเนื้อปลาช่อน และควรเลือกหัวกะทิสดที่คั้นใหม่เพื่อให้ความมันนุ่มละมุน

วิธีจัดเสิร์ฟขนมจีนน้ำยาปลาช่อนให้น่ารับประทาน

เมื่อได้น้ำยาที่เข้มข้นและหอมเครื่องแกงแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการจัดเสิร์ฟให้ดูน่ากิน:

  • จัดขนมจีนเส้นสดใส่จานให้เป็นคำๆ หรือจัดเป็นวง
  • ราดน้ำยาปลาช่อนที่เคี่ยวเสร็จแล้วลงบนขนมจีนให้ทั่ว
  • ตกแต่งด้วยผักเคียงสด เช่น ถั่วงอก ใบโหระพา แตงกวา และถั่วฝักยาว
  • เสิร์ฟพร้อมไข่ต้มยางมะตูมหรือไข่ต้มสุก เพิ่มความกลมกล่อมและความน่ากิน

หากต้องการดูวิธีการจัดจานแบบมืออาชีพเพิ่มเติม สามารถดูจากแหล่งความรู้ด้านอาหารของเชฟมืออาชีพที่ Wongnai Recipes ได้เช่นกัน

ขนมจีนน้ำยาปลาช่อนกับเคล็ดลับความอร่อยที่ไม่ควรมองข้าม

นอกจากการเลือกปลาช่อนสดและเคี่ยวน้ำยาอย่างถูกวิธีแล้ว การเลือกเส้นขนมจีนและผักเคียงก็มีส่วนสำคัญมาก เส้นขนมจีนควรนุ่มเหนียว ไม่แฉะ และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของข้าวหมัก ผักเคียงควรล้างให้สะอาดและจัดให้มีสีสันหลากหลาย เช่น สีเขียวของโหระพา สีขาวของถั่วงอก สีเหลืองอ่อนของไข่ต้ม เพื่อให้จานขนมจีนดูมีชีวิตชีวาและน่ารับประทานยิ่งขึ้น

เคล็ดลับการเก็บน้ำยาปลาช่อนให้คงรสชาติ

หากทำไว้มากและอยากเก็บไว้กินภายหลัง ควรเก็บน้ำยาแยกกับขนมจีน โดยตักใส่กล่องพลาสติกหรือภาชนะมีฝาปิดมิดชิด แล้วนำไปแช่เย็นในช่องธรรมดาอยู่ได้ 2-3 วัน หากต้องการเก็บนานกว่านั้นสามารถแช่ช่องแข็งได้ถึง 1 สัปดาห์ เมื่อต้องการรับประทานให้อุ่นด้วยไฟอ่อนๆ จนร้อนทั่ว เพื่อรักษารสชาติและกลิ่นหอมเหมือนใหม่

สรุปเคล็ดลับวิธีทำขนมจีนน้ำยาปลาช่อนให้อร่อยเหมือนร้านดัง

“วิธีทำขนมจีนน้ำยาปลาช่อน” ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงเลือกปลาช่อนสด เคี่ยวน้ำยาอย่างพิถีพิถัน ใช้หัวกะทิคั้นใหม่ และปรับรสชาติตามความชอบ คุณก็สามารถสร้างเมนูขนมจีนหอมเข้มข้นอร่อยกลมกล่อมได้เองที่บ้าน เหมาะทั้งเป็นอาหารประจำครอบครัวหรือจัดเลี้ยงในงานต่างๆ รับรองว่าใครได้ลองก็ต้องประทับใจในรสชาติแน่นอน

Scroll to Top