วิธีทำน้ำจิ้มแจ่ว สูตรการทำน้ำจิ้มแจ่วแบบอีสานแท้

วิธีทำน้ำจิ้มแจ่ว สูตรการทำน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ดแบบอีสานแท้ พร้อมส่วนผสมและขั้นตอนการทำละเอียด เคล็ดลับปรุงรสให้อร่อย

วิธีทำน้ำจิ้มแจ่ว สูตรการทำน้ำจิ้มแจ่วแบบอีสานแท้

หลายคนชอบกินเนื้อย่าง หมูย่าง หรือไก่ย่าง แต่กลับรู้สึกว่ารสชาติยังไม่ถึงใจ เพราะขาดคู่หูอย่าง น้ำจิ้มแจ่ว ที่ทำให้มื้ออาหารกลมกล่อมยิ่งขึ้น หลายครั้งทำกินเองที่บ้านแล้วรสไม่จัดจ้านหรือขาดความหอมจากข้าวคั่วและพริกป่น บทความนี้จะมาเผยสูตรการทำน้ำจิ้มแจ่วที่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ พร้อมทั้งอธิบายเคล็ดลับสำคัญที่จะช่วยให้ทุกคนทำออกมาอร่อยเหมือนร้านอาหารอีสานแท้ รับรองว่าใครทำตามสูตรนี้จะได้น้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด เปรี้ยว เค็ม หวาน เผ็ด ครบรสอย่างแท้จริง

น้ำจิ้มแจ่วคืออะไร ทำไมถึงเป็นเอกลักษณ์ของอาหารอีสาน

น้ำจิ้มแจ่วคือซอสหรือเครื่องจิ้มที่มีต้นกำเนิดจากภาคอีสานของไทย โดยนิยมกินคู่กับเมนูย่างต่างๆ เช่น คอหมูย่าง ไก่ย่าง เนื้อย่าง หรือแม้แต่น้ำตกหมู จุดเด่นของน้ำจิ้มแจ่วคือรสชาติเปรี้ยว เผ็ด หวาน และเค็มในถ้วยเดียว อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมของข้าวคั่วที่ช่วยเพิ่มเอกลักษณ์ให้กับน้ำจิ้ม การทำน้ำจิ้มแจ่วให้อร่อยนั้นต้องอาศัยความสมดุลของวัตถุดิบและสัดส่วนที่พอดี

สูตรการทำน้ำจิ้มแจ่วให้อร่อยรสเด็ด

สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการน้ำจิ้มแจ่วรสชาติจัดจ้านแบบดั้งเดิม สามารถปรับเพิ่มหรือลดความเผ็ดและความเปรี้ยวได้ตามชอบ

ส่วนผสมน้ำจิ้มแจ่ว

  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียกเข้มข้น 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอมผักชีซอย 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำจิ้มแจ่ว

  1. ผสมน้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำมะนาวเข้าด้วยกัน
  2. ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป คนจนละลายเข้ากันดี
  3. เติมพริกป่น ข้าวคั่ว และหอมแดงซอย คลุกให้เข้ากัน
  4. โรยต้นหอมผักชีซอย คนให้เข้ากันอีกครั้ง
  5. ชิมรสตามชอบ ปรับรสให้ออกเปรี้ยว เค็ม หวาน เผ็ด พอดี

เคล็ดลับการทำน้ำจิ้มแจ่วให้อร่อยเหมือนร้านอาหาร

เคล็ดลับเล็กๆ ที่ช่วยเพิ่มความหอมอร่อยให้กับน้ำจิ้มแจ่วมีดังนี้

  • ใช้พริกคั่วใหม่ๆ จะได้ความหอมและรสชาติเข้มข้น
  • เลือกข้าวคั่วจากข้าวเหนียวคั่วจนเหลืองหอม แล้วโขลกหยาบๆ จะให้กลิ่นชวนกิน
  • น้ำมะขามเปียกควรเป็นแบบเข้มข้นเพื่อรสเปรี้ยวกลมกล่อม
  • สามารถเติมน้ำซุปต้มเนื้อหรือน้ำซุปไก่เล็กน้อยเพื่อให้น้ำจิ้มมีรสละมุน

น้ำจิ้มแจ่วสามารถนำไปใช้กับเมนูอะไรได้บ้าง

นอกจากการกินคู่กับหมูย่างหรือคอหมูย่างแล้ว น้ำจิ้มแจ่วยังสามารถใช้คู่กับอาหารหลากหลาย เช่น

  1. ไก่ย่างสมุนไพร
  2. เนื้อย่างจิ้มแจ่ว
  3. ปลาย่างเกลือ
  4. หมูกระทะ
  5. น้ำตกหมูและน้ำตกเนื้อ

วิธีเก็บรักษาน้ำจิ้มแจ่วให้อร่อยนาน

หากทำในปริมาณมาก สามารถเก็บในขวดแก้วปิดสนิท แช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาได้นานประมาณ 1 สัปดาห์ โดยควรตักด้วยช้อนสะอาดทุกครั้งเพื่อป้องกันการเสียรสชาติ นอกจากนี้ควรแยกส่วนผสมที่เป็นผักสด เช่น หอมแดงซอยและต้นหอม แล้วใส่เพิ่มใหม่ก่อนเสิร์ฟ จะทำให้น้ำจิ้มยังคงความสดใหม่อยู่เสมอ

สรุปวิธีทำน้ำจิ้มแจ่ว

น้ำจิ้มแจ่วถือเป็นหัวใจของอาหารอีสานที่ช่วยเพิ่มความอร่อยให้เมนูย่างต่างๆ การทำน้ำจิ้มแจ่วไม่ยากเลย เพียงเข้าใจสัดส่วนและวัตถุดิบสำคัญอย่างน้ำปลา ข้าวคั่ว และพริกป่น ก็สามารถปรุงออกมาได้รสเด็ดไม่แพ้ร้านอาหาร สำหรับใครที่อยากศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องจิ้มแบบไทยสามารถดูได้จาก อาหารไทย เพื่อสร้างความเข้าใจในรสชาติที่แท้จริงและต่อยอดการทำอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้น

Scroll to Top