วิธีทำเมนูตับหวาน สูตรการทำตับหวาน
หลายคนชื่นชอบตับหวาน แต่บางครั้งเมื่อซื้อจากตลาดกลับพบว่าตับไม่สดหรือรสชาติไม่เข้มข้น การเลือกตับคุณภาพและวิธีปรุงที่ถูกต้องจะช่วยให้ตับหวานอร่อย หอมกลมกล่อม บทความนี้จะแนะนำวิธีทำตับหวานแบบละเอียด ตั้งแต่การเลือกตับสด การปรุงรสด้วยเครื่องปรุงไทย การยำให้เข้ากันอย่างลงตัว และการเสิร์ฟเพื่อคงความอร่อย สามารถนำไปปรับใช้กับเมนูอาหารอีสานอื่นๆ ได้ตามต้องการ รับรองว่าตับหวานที่ทำเองจะได้รสชาติอร่อยเหมือนร้านดัง และเหมาะสำหรับทุกมื้ออาหารของครอบครัว อาหารอีสาน
เคล็ดลับการเลือกตับสดสำหรับทำตับหวาน
การเลือกตับสดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากตับไม่สดจะมีกลิ่นคาวและเสียรสชาติ
- ตับสด เลือกตับวัวหรือไก่สีแดงสด ไม่มีรอยช้ำหรือมีกลิ่นคาวแรง
- เครื่องปรุงสด เช่น หอมแดง กระเทียม พริกสด และผักชีฝรั่ง เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม
- น้ำมะนาว ช่วยลดความคาวและเพิ่มรสเปรี้ยวสดชื่น
ส่วนผสมเมนูตับหวาน พร้อมอัตราส่วนที่เหมาะสม
- ตับวัวสด 300 กรัม
- หอมแดงซอย 4 หัว
- กระเทียมสับ 3 กลีบ
- พริกขี้หนูสด 5 เม็ด
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- ผักชีฝรั่งซอย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
วิธีทำตับหวานให้อร่อย
ขั้นตอนเตรียมตับ
- ล้างตับให้สะอาด ซับน้ำให้แห้ง และหั่นเป็นชิ้นบางพอดีคำ
- ลวกตับในน้ำเดือดเพียง 30 วินาที เพื่อลดความคาว และคงเนื้อนุ่ม
ขั้นตอนการปรุงรสและยำ
- โขลกพริก กระเทียม และหอมแดงพอหยาบ
- ผสมตับลวกกับเครื่องปรุงที่โขลกไว้ ใส่น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาล
- คลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่ผักชีฝรั่งซอยก่อนเสิร์ฟ
- ชิมรสให้ออกเปรี้ยว เค็ม และหวานเล็กน้อยตามชอบ
- เสิร์ฟทันทีเพื่อคงความนุ่มของตับและความหอมของสมุนไพร
เคล็ดลับการเสิร์ฟตับหวานให้ถูกใจ
ตับหวานควรเสิร์ฟทันทีหลังปรุง เพื่อคงรสชาติและเนื้อสัมผัส นอกจากนี้สามารถเสิร์ฟคู่ผักสด เช่น ใบสะระแหน่ หรือผักกาดขาว เพื่อเพิ่มความสดชื่นและลดความเข้มข้นของตับ สร้างความอร่อยครบเครื่อง
ประโยชน์ของตับหวาน
ตับหวานไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการ
- ตับเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงและวิตามินเอสูง
- สมุนไพรไทยช่วยต้านอนุมูลอิสระและเพิ่มความหอม
- พริกสดช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารและเสริมภูมิคุ้มกัน