วิธีทำยำถั่วพลู เมนูไทยรสแซ่บ ทำง่ายได้ที่บ้าน

วิธีทำยำถั่วพลู เมนูอาหารไทยรสแซ่บ ทำง่ายได้ที่บ้าน พร้อมเคล็ดลับการเลือกวัตถุดิบ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอย่างละเอียด เหมาะสำหรับสายสุขภาพและคนอยากเปิดร้านอาหารไทย

วิธีทำยำถั่วพลู เมนูไทยรสแซ่บ ทำง่ายได้ที่บ้าน

สำหรับคนที่หลงรักอาหารไทยรสแซ่บแบบดั้งเดิม “ยำถั่วพลู” คือเมนูที่ทั้งอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เหมาะสำหรับคนที่อยากกินของอร่อยโดยไม่อ้วน แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ วิธีทำยำถั่วพลู ให้ออกมารสชาติกลมกล่อมแบบต้นตำรับ ในบทความนี้เราจะมาเผยเคล็ดลับการทำตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การปรุงน้ำยำ ไปจนถึงเทคนิคการจัดจานให้น่าทาน เหมาะทั้งมือใหม่ในครัวและคนที่อยากเปิดร้านอาหารไทยเมนูสุขภาพที่ลูกค้าต้องชอบ

ส่วนผสมยำถั่วพลูแบบง่าย ทำเองได้ไม่ยาก

ถั่วพลูเป็นผักที่อุดมไปด้วยใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุ เหมาะกับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรือดูแลสุขภาพ โดยส่วนผสมหลักของเมนูนี้มีดังนี้:

  • ถั่วพลูสด 200 กรัม (หั่นเฉียงลวกพอสุก)
  • กุ้งสดลวก 5-6 ตัว
  • หมูสับรวน 100 กรัม
  • ไข่ต้มสุก 1 ฟอง (ผ่าครึ่ง)
  • หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูซอย 1 ช้อนชา
  • มะพร้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
  • กะทิ 3 ช้อนโต๊ะ

การเลือกวัตถุดิบสดใหม่ถือเป็นหัวใจสำคัญ ถั่วพลูควรเลือกฝักอ่อน สีเขียวสด และไม่เหี่ยวย่น เพราะจะช่วยให้ยำมีรสชาติดีและคงความกรอบได้มากขึ้น

เคล็ดลับวิธีทำยำถั่วพลูให้อร่อยแบบร้านดัง

สำหรับใครที่อยากให้เมนูยำถั่วพลูออกมารสชาติกลมกล่อมครบสามรส ลองทำตามขั้นตอนนี้ได้เลย:

  1. ลวกถั่วพลูในน้ำเดือดพอสุก แล้วนำขึ้นแช่น้ำเย็นทันที เพื่อคงความกรอบและสีเขียวสดของถั่วพลู
  2. รวนหมูสับกับน้ำเล็กน้อยจนสุก และลวกกุ้งให้พอดีไม่แข็ง
  3. ทำน้ำยำโดยผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ และกะทิเข้าด้วยกัน คนจนน้ำตาลละลาย
  4. ใส่ถั่วพลู หมูสับ กุ้ง หอมแดงซอย พริกขี้หนู และมะพร้าวคั่ว คลุกให้เข้ากัน
  5. จัดใส่จาน ตกแต่งด้วยไข่ต้ม ผักสด และมะพร้าวคั่วเพิ่มกลิ่นหอม

เทคนิคสำคัญคือต้องชิมรสชาติทุกครั้งก่อนเสิร์ฟ เพื่อให้รสเปรี้ยว หวาน เค็ม และมันจากกะทิสมดุลกัน หากต้องการรสเข้มข้นสามารถเพิ่มน้ำปลาและมะนาวได้ตามชอบ

ยำถั่วพลูประโยชน์เยอะ เหมาะสำหรับสายสุขภาพ

นอกจากจะเป็นเมนูอร่อยแล้ว ยำถั่วพลูยังเต็มไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย เช่น โปรตีนจากหมูและกุ้ง รวมถึงไฟเบอร์จากถั่วพลูที่ช่วยระบบขับถ่ายและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด อีกทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะให้พลังงานต่ำและไม่ต้องใช้น้ำมันในการปรุง

หากต้องการยำถั่วพลูแบบเพื่อสุขภาพยิ่งขึ้น สามารถเปลี่ยนเนื้อสัตว์เป็นเต้าหู้หรือไข่ต้มแทนได้ ส่วนกะทิสามารถใช้กะทิไขมันต่ำเพื่อช่วยลดแคลอรีโดยไม่เสียรสชาติ

เทคนิคจัดจานยำถั่วพลูให้น่ากินเหมือนเชฟมืออาชีพ

การจัดจานที่สวยงามช่วยเพิ่มความน่ารับประทานของเมนูได้มาก โดยสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้:

  • ใช้จานทรงกลมหรือรูปใบไม้เพื่อให้เข้ากับเมนูผักไทย
  • จัดไข่ต้มและกุ้งไว้ด้านบนสุดของถั่วพลูเพื่อให้เห็นสีสันชัดเจน
  • โรยหอมเจียวและมะพร้าวคั่วเพิ่มความหอมและความกรอบ
  • เสิร์ฟพร้อมผักสด เช่น แตงกวา ใบชะพลู หรือถั่วงอก เพื่อเพิ่มความสดชื่น

เคล็ดลับอีกอย่างคือการแช่ถั่วพลูในน้ำเย็นหลังลวก จะทำให้ถั่วพลูคงความกรอบนาน เหมาะสำหรับทำขายหรือเตรียมไว้ล่วงหน้าในร้านอาหาร

ยำถั่วพลูเมนูทำขายกำไรดี

เมนูยำถั่วพลูเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ขายดีในร้านอาหารไทย เพราะมีต้นทุนต่ำแต่ขายได้กำไรสูง เหมาะกับร้านอาหารสุขภาพหรือร้านข้าวแกง โดยต้นทุนวัตถุดิบเพียง 25-30 บาทต่อจาน แต่สามารถขายได้ในราคา 50-70 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่าและทำง่ายมาก ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ซับซ้อน

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสูตรอาหารไทยอื่น ๆ สามารถศึกษาจากเว็บไซต์อาหารชื่อดัง เช่น สูตรอาหารไทยยอดนิยม เพื่อพัฒนาเมนูให้หลากหลายและสร้างรายได้จากการทำอาหารได้จริง

สรุปวิธีทำยำถั่วพลู

การทำยำถั่วพลูไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่เตรียมวัตถุดิบให้ครบและใช้เทคนิคการปรุงที่ถูกต้อง ก็จะได้เมนูรสแซ่บกลมกล่อมเหมือนร้านอาหารไทยแท้ เหมาะกับทุกโอกาส ทั้งกินเองในครอบครัวหรือทำขายสร้างอาชีพ เป็นเมนูสุขภาพที่ให้ทั้งความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการทำยำถั่วพลูให้อร่อยไม่เหมือนใคร

  • เพิ่มความหอมด้วยการคั่วมะพร้าวให้เหลืองกรอบก่อนนำมาคลุก
  • เลือกกุ้งสดใหม่จากตลาด เพราะจะให้รสหวานธรรมชาติ
  • สามารถเพิ่มพริกป่นหรือน้ำพริกเผาเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสจัด
  • แนะนำให้ทานทันทีหลังคลุกเสร็จ เพื่อคงรสชาติและความกรอบของถั่วพลู
Scroll to Top